Support
Gadget Friends
0834225023 และ 0850780935
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

Galaxy S5 กับการดูแลสุขภาพ (Gear Fit + S Health)

gadget.friendly@gmail.com | 27-04-2557 | เปิดดู 10112 | ความคิดเห็น 0

เคส-เคสมือถือ-Otterbox-Samsung Galaxy S5-เคสกันกระแทก-gear-fit-gadget-friends01

เดี่ยวนี้มือถือทำอะไรได้มากกว่าโทร จริงๆแล้วอาจจะไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นมือถือจากแบรนด์ซัมซุง หรือเป็น Galaxy S5 เท่านั้น แต่ก็อย่างที่รู้กันในรุ่น Galaxy S5 เค้าเน้นเรื่องสุขภาพและการดูแลร่างกาย ยิ่งมีการออก Wearable Device อย่าง Gear Fit ก็ยิ่งทำให้เรานำมาใช้งานเพื่อดูแลสุขภาพได้สะดวกมากขึ้น

ในบทความ " Galaxy S5 กับการดูแลสุขภาพ (Gear Fit + S Health) " ก็จะพูดถึงการใช้งานทั้งสองอย่างว่าทำอะไรได้บ้าง มีข้อมูลพื้นฐานอะไรที่เราต้องรู้บ้าง ในเมื่อปัจจุบันคนออกกำลังกายน้อยลง บางครั้งถึงเราจะทำงานอย่างหนักแต่นั่นก็ไม่ได้หมายถึงมันมีผลต่อการใช้พลังงานหรือมันดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าเรามีอุปกรณ์ที่ช่วยแสดง Activity ต่างๆในแต่ละวันเพื่อบอกถึงการใช้พลังงานว่ามากหรือน้อยแค่ไหนจะได้ปรับให้ถูกต้อง

เคส-เคสมือถือ-Otterbox-Samsung Galaxy S5-เคสกันกระแทก-gear-fit-gadget-friends01

บน Galaxy S5 จะมีแอพที่ชื่อว่า S Health ที่เข้ามาช่วยดูแลเรื่องสุขภาพและการออกกำลังกาย ตัวแอพเองสามารถเชื่อมต่อเข้ากับแอพอื่นๆได้อีก และถ้าหากใครใช้งาน Gear Fit เราก็สามารถเชื่อมต่อข้อมูลมายังแอพ S Health ได้ตลอดเวลา

S Health จะแบ่งการทำงานหลักๆออกเป็น 4 ส่วน

ในตอนแรกของบทความนี้ผมจะพูดถึง Pedometer ก่อนก็แล้วกัน

Pedometer : เช็คการเคลื่อนไหวของเราโดยเฉพาะการเดิน ตัวเลขที่เห็นจะเรียกเป็น Step / ว่าในแต่ละวันมีการเดินหรือเคลื่อนไหวเป็นกี่ Step ต่อวัน คิดออกมาเป็นการใช้พลังงานไปเท่าใหร่ เป็นระยะทางเท่าใหร่ ถ้าเราใช้งาน Galaxy S5 เราสามารถนำมือถือใส่กระเป๋ากางเกงเพื่อใช้งานได้ทันที แต่ถ้าใครใช้ Gear Fit ก็ไม่จำเป็นจะต้องพกมือถือ ตัว Gear Fit จับค่าตัวเลขออกมาได้เท่าใหร่นอกจากจะโชวนบน Gear Fit แล้วจะถูกอัพเดตลงบนมือถือทันทีอีกด้วย

เคส-เคสมือถือ-Otterbox-Samsung Galaxy S5-เคสกันกระแทก-gear-fit-gadget-friends01

ข้อมูลทางด้านสุขภาพระบุว่า เด็กอายุ 12-15 ปีจะเดินประมาณ 12,000-15,000 ก้าวต่อวัน และมีแนวโน้มลดลงเมื่อถึงวัยรุ่นคือ 10,000-11,000 ก้าวต่อวัน ส่วนมนุษย์ออฟฟิศทั้งหลายจะเดินน้อยกว่า 5,000 ก้าว และยิ่งคนที่เดินเพียง 2,500-4,200 ก้าวต่อวัน มีแนวโน้มที่จะน้ำหนักเกินมาตรฐาน (หรืออ้วนนั่นล่ะ) รวมถึงโอกาสเสี่ยงเกี่ยวกับอีกสารพัดโรคที่จะถามหา ทั้งความดัน, โรคหัวใจ และมะเร็งบางชนิด!

หากคนเราเดินได้วันละ 10,000 Step จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 400 - 500 Cal  สำหรับตัวแอพเราสามารถปรับจำนวน Step ให้เหมาะสมกับเราได้ว่าเริ่มต้นเราอยากจะเริ่มเดินประมาณเท่าใหร่ และเราค่อยๆทยอยเพื่มจำนวน Step ให้เหมาะสมเพื่อจะส่งผลดีต่อสุขภาพ

ถ้าเราใส่ Gear Fit เอาไว้ การใช้งานในโหมด Pedometer จะคอยอัพเดตให้เรารู้ว่าตอนนี้เดินไปเท่าใหร่ในแต่ละวัน เมื่อเราเดินได้ครึ่งนึงของจำนวน Step ก็จะมีสั่นเตือนและถ้าเราเดินได้ตาม Step ที่ตั้งไว้ หรือเรียกได้อีกอย่างว่าถึง Goal (เป้าหมาย) ก็จะได้รับเหรียญทองสะสมเอาไว้นอกจากจะบอกจำนวน Step แล้วยังมีรายละเอียดของการเผาผลาญพลังงาน / มี Stat ให้ดูย้อนหลังได้สูงสุด 7 วัน / เราสามารถตั้ง Goal เองได้ตามต้องการผ่านตัว Gear Fit ทันที

ข้อดีของการดูข้อมูล Step ผ่าน Pedometer ก็คือเราจะรู้ตัวเลขคร่าวๆของพลังงานที่มีการเผาผลาญไปจากการเดินว่าคือเท่าใหร่ สามารถนำมาเปรียบเทียบกับการรับประทานอาหารเพื่อช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้นั่นเอง โดยเฉพาะคนที่กำลังต้องการลดน้ำหนักเราสามารถปรับการออกกำลังกายให้เหมาะสมได้

เรามาดูข้อดีของการใช้งาน Pedometer ในการดูแลสุขภาพ

  • ช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ก็ต้องควบคู่ไปกับการรับประทานอาหาร
  • ช่วยลดความดันเลือดได้
  • เริ่มมีการเดินเฉลี่ยเพิ่มมากขึ้น เพราะมีข้อมูลให้ดู

    การดูแลสุขภาพผ่าน Gadget อย่าง Activity Tracker อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดของการดูแลร่างกาย แต่มันก็เป็นทางเลือกอีกแบบนึงเท่านั้น เป็นการดูแลตัวเองแบบง่ายๆผ่านเทคโนโลยีใกล้ตัวนั่นเอง





 

ความคิดเห็น

วันที่: Sun Jun 30 01:41:47 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

เคสมือถือ รับประกันความพอใจสั่งได้ 24 ชั่วโมง รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมส่ง แม่ค้าใจดียินดีให้บริการ สอบถามโทร. 0834225023 // Line Id : gadgetfriends Samsung,iPhone,HTC,LG,BB,SONY,NOKIA,LENOVO